บทที่ 2
ข้อมูลพื้นฐานของโครงการ ( Fact )
2.1 ข้อมูลพื้นฐานด้านหน้าที่ใช้สอย ( Function Facts )
การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานโครงการ(Facts)ด้านต่างๆที่มีอิทธิพลต่อการกาหนดแนวความคิดโครงการ และการจัดทารายละเอียดโครงการ จากโครงการใกล้เคียงกับลักษณะ โครงการนมัสการสถานคริตสเตียน ( โปแตสแตน ) และสอดคล้องกับเป้าหมายโครงการที่ตั้งไว้ โดยข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้เป็นข้อมูลที่มีการวิเคราะห์แล้วและนาเสนอเฉพาะในขอบเขตของโครงการทางสถาปัตยกรรม ในการศึกษาข้อมูลพื้นฐานโครงการสามารถแบ่งออกเป็น 4 ด้านตามปัจจัยการพิจารณา เพื่อจัดทาโครงการ และเพื่อเป็นข้อมูลในการออกแบบโครงการซึ่งได้แก่ ด้านประโยชน์ใช้สอย ด้านรูปแบบ ด้านเศรษฐศาสตร์ และด้านเทคโนโลยี การนาข้อมูลพื้นฐานของ โครงการนมัสการสถานคริตสเตียน ( โปแตสแตน ) มาวิเคราะห์ และสรุปปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการกาหนดแนวความคิดโครงการ ซึ่งที่มาของข้อมูลจากการสอบถาม การสารวจสังเกตการณ์ ค้นคว้ากรณีศึกษาที่มีลักษณะของโครงการใกล้เคียง จากวารสาร หนังสือ ของหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เฉพาะในขอบเขตด้านสถาปัตยกรรม โดยข้อมูลพื้นฐานด้านหน้าที่ใช้สอย ศึกษามาจากกรณีศึกษาโครงการที่มีลักษณะใกล้เคียงกับโครงการ
2.1.1 ผู้ใช้โครงการ ( User )
เพื่อการศึกษาข้อมูลพื้นฐานด้านหน้าที่ใช้สอยของโครงการ มีการพิจารณาหัวข้อหลักและรายละเอียดต่างๆจากข้อมูลที่เป็นสถิติ กรณีศึกษา และเอกสารทางวิชาการของโครงการที่ใกล้เคียงกัน
- โครงสร้างองค์กร ( Authority Structure )
โครงการ โครงการนมัสการสถานคริตสเตียน ( โปแตสแตน ) เป็นโครงการของสภา-คริสตจักร ภายใต้การดูแลของ กรมศาสนา ซึ่งดาเนินงานนโยบายของสภาคริสตจักร ประกอบกับการเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจ ช่วยบาบัดบรรเทาสภาพจิตใจ แก่ผู้มี่เข้ามาในโครงการ ซึ่งสามารถจาแนกแจกจ่ายออกเป็นโครงสร้างการบริหารองค์กรได้เป็นส่วนต่างๆดังนั้น
- ผังโครงสร้างองค์กร ( Organization Chart )
ตารางที่ 2-1 แสดงผังองค์กรคริสตจักร ที่มา คริสตจักรสาธร
โดยในแต่ละส่วนจะทาการประสานงาน และดำเนินการที่เกี่ยวข้องและสัมพันธ์กัน โดยการดาเนินงานในแต่ละคริสตจักร ผู้ปกครอง ( ศิยาภิบาล ) จะเป็นผู้ดำเนินการหลัก และแจกจ่ายไปยังแต่ละฝ่าย
ตารางที่ 2-2 แสดงตำแหน่งอัตรากำลังในแต่ละองค์ประกอบของโครงการ ที่มา ดัดแปลงจากกรณีศึกษาที่ 1 คริสตจักรเสรีภาพ
ดัดแปลงจากกรณีที่ 2 คริสตจักรใต้ร่มพระคุณ
- กลุ่มผู้ใช้โครงการหลัก ( Main Users )
เป็นกลุ่มหรือบุคคลที่เข้ามาใช้โครงการหรือกิจกรรมหลัก ทั้งการนมัสการประกอบพิธีทางศาสนา
และศึกษาหาความรู้ทางศาสนา หรือเพื่อพักผ่อนหย่อยใจซึ่งจะเป็นกลุ่มที่ตรงตามวัตถุประสงค์
กลุ่มผู้ใช้โครงการ คือ ศิยาภิบาล ( ผู้ปกครอง ) สมาชิกในคริสตจักร พนักงานในคริสตจักร
- กลุ่มผู้ใช้โครงการรอง ( Sub Users )
บุคคลหรือประชาชนทั่วไปที่จะเข้ามาหาความรู้ หรือต้องการศึกษาในเรื่องต่างๆของศาสนาคริสต์
และสมาชิกจากคริสตจักรอื่นๆที่จะเข้ามารวมกิจกรรมต่างๆ
- ลักษณะของผู้ใช้ ( Characteristics )
จากลักษณะโครงการ เป็นอาคารประเภทสาธารณะ ซึ่งผู้ใช้อาคารจะมีหลายกลุ่มที่มีลักษณะ
เฉพาะตัว ( Character ) ที่แตกต่างกันของกลุ่มผู้ใช้อาคาร โดยสามารถแบ่งกลุ่มของลักษณะผู้
ใช้อาคารออกเป็น 3 ด้านคือ
ตารางที่ 2-3 แสดงการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของกิจกรรมหลัก–รองและลักษณะของผู้ใช้สอยโครงการ
2.1.2 กิจกรรม ( Activity )
ศึกษาข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวกับกิจกรรมและรูปแบบพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในโครงการ กิจกรรมหลักของโครงการ คือ การประกอบพิธีนมัสการ การซ้อมคณะร้องเพลง การเตรียมการเรียน-การสอนให้กับ สมาชิกในคริสตจักร กิจกรรมอื่นๆทั่วไปแล้วแต่สมาชิกจะทาการกันเอง ประชุมกัน โดยมีศิยาภิบาล เป็นผู้นำ และที่ปรึกษา ในกิจกรรมนั้นๆ
ตารางที่ 2-4 แสดงการแยกประเภทของกิจกรรมของโครงการนมัสการถานคริสต์เตียน
2.1.3 ตารางเวลา ( Time Schedule )
จากการศึกษาจากตารางกิจกรรมข้างต้นนั้นเวลาการทำงานของแต่ละกิจกรรมมีการกำหนดเวลาที่ตายตัวอยู่เพียงแค่กรณีเดียวคือ การนมัสการประกอบพิธี ส่วนกิจกรรมอื่นนั้นไม่แน่นนอนแล้วการกำหนดกิจกรรมนั้นๆ ในแต่ละส่วนของโครงการสามารถแจกแจงการใช้เวลาได้ดังน
2.2 ข้อมูลพื้นฐานทางด้านรูปแบบ ( Form Fact )
เป็นการศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ตั้ง และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม รวมไปถึงลักษณะ/รูปแบบโครงการทางสถาปัตยกรรมโดยให้เกิดความสอยคล้องต่อลักษณะ กิจกรรม และพฤติกรรมของผู้ใช้งาน
1. สภาพโดยรอบบริเวณ
ค่าน้ำหนัก 8 คะแนน
เนื่องจากโครงการจะเน้นวิถีชีวิตของคนในประเทศไทย สภาพแววล้อมโดยรอบโครงการจึงเป็นสิ่ง
ที่จะช่วยสามารถสะท้อนให้เห็นถึง วิถีชีวิตโดยรวมได้อย่างชัดเจนและต้องการที่จะดึงเอกลักษณ์
ของจังหวัดนั้นๆออกมาสภาพแววล้อมจึงค่อนข้างส่งผลต่อตำแหน่งโครงการ
2. ใกล้แหล่งชุมชน
ค่าน้ำหนัก 5 คะแนน
เนื่องจากโครงการประเภทโบสถ์มีผลต่อการเข้าถึงชุมชนค่อนข้างมากการที่เราเลือกให้โครงการ
ไปอยู่ในจุดที่อยู่ใกล้แหล่งชุมชนจึงค่อนข้างเป็นเรื่องที่สำคัญ
3. แหล่งทรัพยากรธรรมชาติ
ค่าน้ำหนัก 5 คะแนน
จากที่มาโครงการข้างต้นโครงการที่จะทำนั้นต้องการจะดึงเอกลักษณ์เด่นๆของจังหวัดที่เป็นที่ตั้ง
โครงการออกมาใช้มากที่สุด แหล่งทรัพยากรที่สำคัญที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดนั้นๆ จึงต้องมี
อยู่ในตำแหน่งที่ตั้ง
4. สภาพการเข้าถึง
ค่าน้ำหนัก 4 คะแนน
ระยะทางการเข้าถึงของโครงการมีผลต่อตำแหน่งที่ตั้งเนื่องจากถ้าอยู่ในระยะทางที่สามารถเข้า
ถึงได้ง่ายก็จะสะดวกต่อผู้ที่เข้ามาใช้โครงการ
5. ทิวทัศน์
ค่าน้ำหนัก 3 คะแนน
เนื่องจากโครงการเป็นประเภทโบสถ์ จึงต้องการทิวทัศน์ที่ได้จากบริบทมาช่วยให้ที่ตั้งโครงการดู
น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
ตารางที่ 2-6 แสดงการสรุปหลักเกณฑ์การเลือกพื้นที่ตั้งโครงการ
2.2.1 จินตภาพ ( Image )
เป็นการศึกษาข้อมูลที่ปรากฏออกมาภายนอกของโครงการ ที่มองเห็นแล้วจะทาให้เกิด
จินตนาการของภาพรวมโครงการได้ โดยการศึกษาข้อมูลนี้นามาจากการศึกษาจากกรณีศึกษาที่มี
ลักษณะอาคารหรือการใช้งานประเภทเดียวกัน เพื่อให้ทราบแนวคิด วิธีการจัดการการออกแบบ สรุปและ
ยกตัวอย่างประกอบให้เห็นจินตภาพรวมของโครงการ โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนคือ
1. จินตภาพภายนอก
2. จินตภาพภายใน
- จินตภาพภายนอก ( External Image )
เป็นการศึกษาถึงลักษณะที่สามารถมองเห็นได้จากภายนอกโครงการ ในเรื่องของรูปทรง ลักษณะ สัดส่วน ทางเข้า เพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการ
- รูปร่างและรูปทรงอาคาร ( Configuration & Form )
จากกรณีศึกษา ตัวอาคารมีความเรียบง่าย ด้านนอกอาคารทีความสัมพันธ์ต่อเนื่องถึงภายใน ในตัวอาคารซึ่งสามารถแสดงให้เห็นถึงกิจกรรมภายในได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงสามารถมองเห็นโครงสร้างหลักของอาคารที่สื่อถึงเทคโนโลยีการก่อสร้างที่ทันสมัย
-จินตภาพภายใน ( Internal Image )
เป็นการศึกษาถึงลักษณะของที่ว่างภายในอาคาร รูปแบบต่างๆ เช่น ลักษณะที่ว่าง คุณภาพของที่ว่าง เป็นต้น ศึกษาภาพโดยรวมที่ปรากฏอยู่ภายในโครงการของอาคารตัวอย่าง เพื่อให้ทราบแนวความคิด และการออกแบบที่ว่างภายในอาคาร
2.3 ข้อมูลพื้นฐานด้านเศรษฐศาสตร์ ( Economic Facts )
ราคาประเมินที่ดิน = 250,000 บาท : ตารางเมตร
250,000x9,600 = 2,400,000,000 บาท
กาหนดค่าก่อสร้าง = 25,000 บาท : ตารางเมตร
8,930.44 x25,000 = 223,261,000 บาท
ค่าปรับปรุงดิน = 500,000 บาท : ไร่
500,000x6 = 3,000,000 บาท
คิดค่าดำเนินงานเป็น1%ของค่าก่อสร้าง 2,232,610 บาท
รวมงบประมาณทั้งหมด= 2,626,493,610 บาท
2.4 เทคโนโลยีอาคาร ( Technology Fact )
ศึกษาเกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับระบบประกอบอาคารต่างๆ เพื่อใช้ในการกาหนดระบบประกอบอาคารที่มีความเหมาะสมกับโครงการ คือ งานระบบอาคาร ( Building System )
ศึกษาเกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานต่าง ๆ ของระบบประกอบอาคารที่มีความเหมาะสม
- ระบบโครงสร้าง ( Structure )
- ระบบปรับอากาศ ( Air – Conditioning )
- ระบบน้าดี ( Cold Water )
- ระบบบาบัดน้ำเสีย ( Waste Treatment Plant )
- ระบบไฟฟ้าฉุกเฉิน ( Emergency System )
- ระบบป้องกันอัคคีภัยและดับเพลิง ( Fire Protection and Extinguish )
- ระบบแสงสว่าง ( Lighting )
- ระบบประหยัดพลังงาน ( Energy Conservation )
โดยงานระบบแต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะและคุณสมบัติพิเศษที่มีความเหมาะสมกับโครงการอย่างไร โดยจะแสดงรายละเอียดของระบบที่ใช้ในอาคารดังนี้
ตารางที่ 2-7 แสดงการวิเคราะห์ระบบประกอบอาคารที่ใช้ในโครงการ
การศึกษาอาคารตัวอย่าง
1. THE CHURCH OF THE LIGHT
SITE LOCATION : Osaka, Japan
BUILDING TYPE : Christian Church
BUILDING SIZE : 113 sq. meters
SITE AREA : 838.8 sq. meters
CONCEPT : use light in a way that would
strengthen the power of religion
รูปภาพที่ 2-1 แสดงภาพโบสถ์ THE CHURCH OF THE LIGHT
The Church of the Light ที่เมือง Osaka
ความเรียบง่าย เกิดจากกล่องคอนกรีตที่เจาะช่องไว้ที่กำแพงหลังแท่นบูชา ให้แสงส่องผ่านเข้าภายในเป็นรูปไม้กางเขนที่เรืองรอง ตัดกับความมืดภายในห้องสวดมนต์ Ando กล่าวถึงโบถส์ลอยน้ำ - the Church on the Water ว่า "โดยการปักไม้กางเขนเป็นส่วนหนึ่งของสระบัว ผมต้องการแสดงออกถึงความคิดของพระเจ้า ที่สถิตอยู่ในดวงใจของทุกคน และผมต้องการสร้างสรรค์ที่ว่าง ที่ซึ่งใครสามารถนั่งและทำสมาธิได้ด้วย"
รูปภาพที่ 2-2 แสดงภาพโบสถ์ THE CHURCH OF THE LIGHT
ภายในโบสถ์นั้นเงียบสงบมาก อาศัยแสงที่ลอดเข้ามาจากภายนอก กับการเจาะช่องกำแพงเป็นรูปไม้กางเขน ช่วยให้ไม้กางเขนที่เปล่งแสงอยู่ตรงหน้าไม่เหมือนที่เคยเห็นจากท่ไหนมาก่อน เหมือนมีชีวิต สัมผัสได้ด้วยควมรู้สึกจริงๆ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ภายในนั้นเป็นสีดำหมด ช่วยเพิ่มความขรึมขลังเข้าไปอีก ลองนั่งอยู่ในนั้นสักพัก รู้สึกสงบ และสบายใจอย่างบอกไม่ถูกทีเดียว
รูปภาพที่ 2-3 แสดงภาพโบสถ์ THE CHURCH OF THE LIGHT
รูปภาพที่ 2-4 แสดงภาพโบสถ์ THE CHURCH OF THE LIGHT
รูปภาพที่ 2-5 แสดงSITE PLAN THE CHURCH OF THE LIGHT
รูปภาพที่ 2-6 แสดงSECTION THE CHURCH OF THE LIGHT
รูปภาพที่ 2-7 แสดง PLAN THE CHURCH OF THE LIGHT
2. TAMPA COVENANT CHURCH
SITE LOCATION : Flotida, USA
BUILDING TYPE : Addition/Renovation
BUILDING SIZE : 7,620 sq. meters
รูปภาพที่ 2-8 แสดงภาพโบสถ์ TAMPA COVENANT CUHRCH
ความท้าทายของสถาปนิกได้แก่การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสเปซ courtyard ภายนอก อาคารเก่า และอาคารใหม่ให้หลอมหลวม มีความต่อเนื่องเป็นงานเดียวกัน งานออกแบบภายในและ รูปด้านภายนอก นำอนุกรม Fibonacci มาร้อยเรียงในการกำหนดสัดส่วนอาคาร นอกจากนี้ยังมีการนำตัวเลขที่สำคัญในเชิงศาสนามาใช้เป็นจำนวนองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น ต้นโอลีฟ 3 ต้น เชิงเทียน 7 ชิ้น หน้าต่าง 12 บาน โคมไฟแขวนฝ้าเพดาน 14 ชิ้น ส่วนจะมีที่มาอย่างไรขอให้ศึกษาจากพระคัมภีร์ไบเบิ้ลเองนะครับ เนื่องจากผู้เขียนไม่มีความชำนาญในส่วนนี้
รูปภาพที่ 2-9 แสดงภาพโบสถ์ TAMPA COVENANT CUHRCH
โครงการประกอบด้วยโบสถ์คริสต์ขนาด 25,000 ตารางฟุต ประกอบด้วย worship sanctuary สำนักงาน ห้องเรียน และ ห้องโถงใหญ่ประกอบพิธีกรรมความจุ 450 คน นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงอาคารสองหลัง หลังแรกสร้างในปี ค.ศ. 1960 และอีกหลังในปี ค.ศ. 1990 รวมไปถึงการออกแบบผังบริเวณใหม่จัดให้มีพื้นที่จอดรถเป็นสัดส่วน ออกแบบงานภูมิสถาปัตยกรรมและไฟฟ้าตกแต่งเพิ่มเติม
รูปภาพที่ 2-10 แสดงภาพโบสถ์ TAMPA COVENANT CUHRCH
รูปภาพที่ 2-11 แสดงภาพโบสถ์ TAMPA COVENANT CUHRCH
รูปภาพที่ 2-12 แสดงภาพPLAN TAMPA COVENANT CUHRCH




















ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น